• บทความ

วิธีป้องกันบ้านร้อนแบบมืออาชีพ - ฉนวนกันความร้อนช่วยได้อย่างไร?

  • admin net
  • 18 Mar, 2025

  1. ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย การอยู่ในบ้านที่ร้อนอบอ้าวเป็นปัญหาที่หลายครอบครัวต้องเผชิญ ค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศพุ่งสูงขึ้นทุกเดือน แต่บ้านก็ยังร้อนอยู่ดี ทางออกที่มีประสิทธิภาพคือการติดตั้งฉนวนกันความร้อน ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อนได้อย่างยั่งยืน

ฉนวนทำงานอย่างไร?

    ประโยชน์ที่ได้รับจากฉนวนกันความร้อน
    1. บ้านเย็นสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    2. ประหยัดค่าไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ
    3. ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
    4. ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก

    ฉนวนควรติดตั้งที่ไหนบ้าง

    • การนำความร้อน - ฉนวนมีโครงสร้างที่มีช่องอากาศเล็กๆ จำนวนมาก ซึ่งช่วยลดการนำความร้อนจากภายนอกเข้าสู่บ้าน เปรียบเสมือนการจับแก้วกาแฟร้อนด้วยถุงมือหนาแทนการใช้มือเปล่า
    • การพาความร้อน - ช่องอากาศในฉนวนจะกักอากาศไว้ ทำให้อากาศร้อนไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านผนังหรือหลังคาได้สะดวก
    • การแผ่รังสีความร้อน - ฉนวนบางชนิดมีวัสดุสะท้อนความร้อน ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนออกไป เหมือนกับที่ฟอยล์อะลูมิเนียมสะท้อนความร้อนในเตาอบเลือกฉนวนอย่างไรให้เหมาะกับบ้าน
    • บ้านที่ติดตั้งฉนวนอย่างถูกต้องสามารถลดอุณหภูมิภายในได้ถึง 4-8 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับบ้านที่ไม่มีฉนวน จากการศึกษาในกรุงเทพฯ พบว่า บ้านที่ติดตั้งฉนวนที่หลังคาและฝ้าเพดาน มีอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงบ่ายต่ำกว่าบ้านไม่มีฉนวนถึง 6 องศา ทำให้อยู่อาศัยได้สบายโดยไม่ต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา
    • ครอบครัวไทยที่ติดตั้งฉนวนครบถ้วนสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ 15-30% ต่อเดือน คิดเป็นเงินหลายพันบาทต่อปี ลองคำนวณง่ายๆ หากค่าไฟบ้านคุณเดือนละ 3,000 บาท การลดลง 20% จะประหยัดได้ 600 บาทต่อเดือน หรือ 7,200 บาทต่อปี ทำให้การลงทุนติดตั้งฉนวนคุ้มค่าในระยะยาว

    แอร์ในบ้านที่มีฉนวนจะทำงานน้อยลง เพราะอุณหภูมิภายในคงที่มากขึ้น ทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าซ่อมบำรุง เปรียบเหมือนการขับรถบนถนนราบแทนการไต่เขาที่ชันตลอดเวลา

    ฉนวนไม่เพียงป้องกันความร้อน แต่ยังช่วยลดเสียงรบกวนได้ด้วย โดยเฉพาะฉนวนใยแก้วและเซลลูโลสที่มีคุณสมบัติดูดซับเสียงได้ดี ครอบครัวที่อาศัยใกล้ถนนใหญ่หรือสนามบินจะรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน

    ฉนวนแต่ละประเภทมีค่า "R-Value" แตกต่างกัน ซึ่งเป็นตัวบอกความสามารถในการต้านความร้อน ยิ่งค่า R-Value สูง ยิ่งกันความร้อนได้ดี สำหรับบ้านในเมืองไทย ควรเลือกฉนวนที่มีค่า R-Value อย่างน้อย 3-5

    ตัวอย่างฉนวนที่นิยมในไทย

    การลงทุนติดตั้งฉนวนกันความร้อนอาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูง แต่ผลตอบแทนที่ได้ทั้งในแง่ความสบายและการประหยัดพลังงานคุ้มค่าในระยะยาว เปรียบเสมือนการซื้อร่มคันใหญ่เพื่อบังแดดให้ทั้งบ้าน แทนที่จะเปิดพัดลมและแอร์แรงๆ เพื่อสู้กับความร้อนที่ทะลุทะลวงเข้ามา

    หลังคาและฝ้าเพดาน - เป็นจุดสำคัญที่สุด เพราะความร้อนจากแสงอาทิตย์ส่วนใหญ่ (ประมาณ 70%) เข้ามาทางหลังคา การติดตั้งฉนวนที่ฝ้าเพดานจึงให้ผลคุ้มค่าที่สุด

    ผนังภายนอก - โดยเฉพาะผนังทิศตะวันตกและทิศใต้ที่รับแสงแดดโดยตรง การติดตั้งฉนวนที่ผนังช่วยลดความร้อนได้อีก 20-25%

    หน้าต่างและประตู - แม้จะมีพื้นที่น้อย แต่หน้าต่างและประตูมักมีรอยรั่วที่ทำให้อากาศร้อนเข้าบ้านได้ การใช้วัสดุซีลรอยต่อหรือฟิล์มกรองแสงช่วยได้มาก

    พื้นและใต้ถุนบ้าน - สำหรับบ้านยกพื้นหรือบ้านที่มีชั้นใต้ดิน การติดตั้งฉนวนใต้พื้นช่วยป้องกันความชื้นและรักษาอุณหภูมิภายในให้คงที่

    ฉนวนใยแก้ว - ราคาประหยัด ติดตั้งง่าย เหมาะกับฝ้าเพดาน

    ฉนวนโฟม - มีน้ำหนักเบา กันความร้อนดี ทนความชื้น เหมาะกับผนัง

    แผ่นสะท้อนความร้อน - ติดตั้งง่าย เหมาะกับใต้หลังคา

    ฉนวนกันความร้อนทำหน้าที่เหมือน "เกราะป้องกัน" ให้บ้านของคุณ โดยทำงานตามหลักการทางฟิสิกส์ คือ การขัดขวางการถ่ายเทความร้อนทั้งสามรูปแบบ:

    สวัสดีค่ะ! ฉันเป็นผู้ช่วยอัตโนมัติของ Hometechdecor ยินดีให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของเรา คุณต้องการสอบถามอะไรเกี่ยวกับสินค้าบ้างคะ? 😊